< !--Google Tag Manager-- >

Buzzebees ปักธงผู้นำ CRM Privilege Platform

Buzzebees โชว์ศักยภาพเต็มร้อย ประกาศศักดาความเป็นสตาร์ทอัพอันดับ 1 แห่งประเทศไทยในปี 2559 ในการเป็นผู้นำตลาดแพลตฟอร์ม CRM Privilege และระบบ Mobile Wallet Payment Gateway ในตลาดประเทศไทย พร้อมสร้างระบบ Eco System เชื่อมโยงส่วนต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร ตั้งเป้ารุดหน้าเป็นระบบเกตเวย์กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์และบริษัทฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า พร้อมเดินหน้าขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ AEC เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม มั่นใจปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

มร. ไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Buzzebees Co.,Ltd. เปิดเผยว่า“ปัจจุบัน Buzzebeesมีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 24 ล้านคน นับได้ว่าBuzzebeesเติบโตเร็วมากนับตั้งแต่ก่อตั้งได้เพียง 4 ปี โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่อีกมากกว่า 10 องค์กร อาทิ ดีแทค, ธนชาต, กรุงไทยแอกซ่า, เทสโก้ โลตัส, ช่อง 7 เป็นต้น ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีพันธมิตรระดับคอร์ปอเรทรายใหญ่ๆ มากกว่า 40 องค์กร และยังสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีในตลาดต่างประเทศอีก 7 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว อินโดนีเซีย แอฟริกา กาน่า แคเมอรูน และไอวอรี่โคสต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีพันธมิตรในส่วนของร้านค้าปลีกกว่า 90% และมีการเสนอสิทธิพิเศษมากกว่า 20,000 แคมเปญ จึงทำให้Buzzebeesมีความได้เปรียบในเชิงธุรกิจมากกว่ารายอื่นๆ”

โดยในปี 2559 Buzzebeesสามารถสร้างรายได้สูงถึง 330 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2558 ถึง 200% โดยส่วนที่เติบโตมากที่สุดมาจากในส่วนของการดำเนินการออกแบบพัฒนาและดูแล CRM Platform ให้กับองค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นรายได้หลักสูงกว่า 50% ของรายได้ทั้งหมด โดยความโดดเด่นของBuzzebees คือการนำเสนอแพลตฟอร์ม CRM แบบ end-to-end เริ่มตั้งแต่การพัฒนาแอปพลิเคชัน CRM, จัดหาโปรแกรมเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ มาร์เก็ตเพลส สื่อออนไลน์ แบบสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ ระบบการชำระเงิน ระบบแลกรับสินค้ารวมไว้ทุกรูปแบบ เช่น NFC, EDC, QR Code, Barcode, E-Coupon และระบบ Fulfillment รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบภายในของร้านค้าที่มีหลายสาขาทั่วประเทศ และทุกขั้นตอนเป็นระบบการทำงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งมีบริการอย่างครบวงจรแบบ one stop service จึงทำให้บริษัทฯ สามารถขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว และด้วยโมเดลธุรกิจรูปสามเหลี่ยมที่ตอบโจทย์ให้ win win ทุกฝ่าย ทั้งลูกค้าระดับองค์กร ตลาดผู้ค้าปลีกหรือ SMEs และผู้บริโภค จึงทำให้องค์กรแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในปี 2560 มร. ไมเคิล เชน กล่าวว่า “Buzzebeesมีแผนที่จะรุกตลาดในการเชื่อมโยงระบบเกตเวย์กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Wallet Payment Gateway) โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าพัฒนาระบบ Eco System ที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตตลาดยุคดิจิทัล ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยบริษัทตั้งเป้าไว้ว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้า Buzzebeesจะกลายเป็นผู้นำฟินเทครายใหญ่ที่สุดในประเทศในการให้บริการระบบ Digital Wallet Payment Gateway ซึ่งเราสามารถเชื่อมโยงการทำธุรกรรมออนไลน์ Online Banking ให้กับธนาคารต่างๆ ได้ โดยเชื่อมโยงกับผู้ใช้งานให้สามารถทำธุรกรรมต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Wallet ในมือถือได้อย่างสะดวกรวดเร็วและมีความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายการเชื่อมโยงการชำระเงินผ่านเครื่อง EDC ที่นำมาติดตั้งให้กับร้านค้าต่างๆ ได้มากถึง 100,000 เครื่องทั่วประเทศ โดยที่ผู้บริโภคสามารถสะสมแต้มและนำคะแนนไปแลกสิทธิพิเศษต่างๆ เพียงแค่สแกนมือถือบนเครื่อง EDC นอกจากนี้ Buzzebeesยังสามารถสร้างระบบเชื่อมโยงการชำระเงินร่วมกับห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด หรือร้านค้าต่างๆ ผ่านระบบ Wallet ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

มร. ไมเคิล เชน กล่าวเสริมว่า “จากผลสำรวจหัวข้อ ‘การใช้มือถือในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่างๆ โดยมาร์เก็ตบัซซเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 โดยสำรวจคนไทยที่ใช้สมาร์ทโฟนรวมจำนวน 2,000 คน ระบุว่า 50% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน เคยใช้งาน Mobile Payments รูปแบบต่างๆ อยู่แล้วซึ่งผู้ใช้จำนวน 2 ใน 3 บอกว่าจะใช้ Mobile Payments ในปริมาณเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ครั้งต่อเดือน และอีก 1 ใน 3 บอกว่าจะใช้ในปริมาณที่บ่อยครั้งมากขึ้นแสดงให้เห็นว่าการชำระเงินผ่านมือถือมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2559 พบว่ามีการใช้มือถือชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่างๆ รวมกันสูงถึง 90 พันล้านบาท ระบบ Eco System ของ[company_short]จะทำงานเช่นเดียวกับ Visa หรือ MasterCard และมีการเรียกเก็บเงินในจำนวนเล็กน้อย เป้าหมายต่อไปของ[company_short]คือ ต้องเป็นศูนย์กลางสังคมดิจิทัล เพราะเราสามารถเชื่อมต่อทุกแบรนด์ ทุกธนาคารและทุกคนเข้าด้วยกันได้บนระบบ Eco System เดียวกัน ภายใต้ระบบคลาวน์ของ Microsoft Azure ที่มีสเกลใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมด้วยความปลอดภัยและความยืดหยุ่นสูงสุด”

ล่าสุด Buzzebeesยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ “SHOW DC” ศูนย์การค้าและเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรพร้อมด้วย Alipay, Alibaba Online Payment และ True Money ผ่านระบบ e-wallet ของBuzzebees และนอกจาก Alipay แล้ว Buzzebeesยังสามารถเชื่อมโยงระบบของ True Money ของทรู, Paysbuy ของดีแทค, เคาน์เตอร์ เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven และยังมีแผนที่จะเชื่อมโยงกับ Airpay ของ Garena พร้อมแสดงผลเป็นเรียลไทม์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ Buzzebeesยังได้เปิดตัวร่วมกับแอปพลิเคชัน “GetVan Booking” ซึ่งเป็นแอปการจองที่นั่งรถตู้สาธารณะ โดยBuzzebeesทำหน้าที่เชื่อมโยงระบบ Eco System และ e-wallet เข้าด้วยกันอย่างครบวงจร ซึ่งBuzzebeesรับผิดชอบในส่วนของการทำธุรกรรมทั้งหมด ตั้งแต่การเติมเงิน บริการ wallet และการจองที่นั่งแบบเรียลไทม์อีกด้วย

ไมเคิล เชน กล่าวปิดท้ายว่า “บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพและความเชี่ยวชาญในด้านไอที และแนวความคิดใหม่ในการพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่า 20 ปี รวมถึงวัฒนธรรมองค์กรที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กล้าคิดกล้าทำ และกล้าที่จะปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ทุกวันนี้ เราสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด CRM Privilege บนแอปพลิเคชันได้อย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าBuzzebeesจะกลายเป็นผู้นำในการสร้าง Eco System และเชื่อมโยงระบบระบบเกตเวย์กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยภายในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าว่าจะมีผู้ใช้งานมากกว่า 30 ล้านราย และมีรายได้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท ภายในสิ้นปี 2560”